วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกา

คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกา
                เมื่ออาณานิคม มีคำประกาศอิสรภาพออกมาแล้ว อาณานิคมก็เริ่มตัดความสัมพันธ์ ทางการเมือง กับอังกฤษ แต่มิได้กระทำอย่างรุนแรง เพราะผู้นำอาณานิคม บางอาณานิคม ยังเลื่อมใสในรัฐบาลอังกฤษอยู่ เมื่ออังกฤษได้ทราบข่าวการประกาศอิสรภาพ จึงถือว่าการกระทำนั้นเป็นการกบฏต่อแผ่นดิน จำต้องปราบด้วยกำลังทหาร ซึ่งเป็นผลให้เกิดสงครา เพื่ออิสรภาพอเมริกันขึ้น จอร์จ วอชิงตัน เป็นแม่ทัพใหญ่ ทำการสู้รบ กับอังกฤษ เป็นเวลาเกือบ 7 ปี จึงมีชัยชนะ เด็ดขาด เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1781 

           อาณานิคมทั้งสิบสาม (อังกฤษ: Thirteen Colonies) หมายถึง 13 อาณานิคมซึ่งในอดีตเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และประกาศอิสรภาพพร้อมกันเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 (พ.ศ. 2319) กำเนิดเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา

อาณานิคมทั้งสิบสามได้แก่

รัฐนิวยอร์ก
รัฐเพนซิวาเนีย
รัฐจอร์เจีย
รัฐนิวเจอร์ซีย์
รัฐนอร์ทแคโรไลน่า
รัฐเวอร์จิเนีย
รัฐแมสซาซูแซตส์
รัฐแมรี่แลนต์
รัฐเซาส์แคโรไลน่า
รัฐคอนเนกติคัต
รัฐนิวแฮมเชียร์
รัฐเดลาแวร์
รัฐโรดไอส์แลนด์ 

คำประกาศอิสรภาพอเมริกัน : เนื้อความ
 
(วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1776)

          เมื่อใดวิถีแห่งเหตุการณ์ของมนุษย์ได้บังเกิดความจำเป็นที่ประชาชน พวกหนึ่ง จะต้องทำลายข้อผูกพันทางการเมือง ซึ่งตนมีอยู่กับประชาชนพวกอื่นให้หมดไป และจะจัดตั้งแหล่งที่อันเป็นเอกเทศและเท่าเทียมกันขึ้นใหม่ในหมู่อำนาจบนพื้นพิภพนี้ ตามที่กฎแห่งธรรมชาติและพระเจ้าแห่งธรรมชาติได้ทรงกำหนดให้ไว้ เมื่อนั้นความเคารพที่พึงมีต่อความเห็นของมวลมนุษย์เรียกร้องว่าพวกเขาจะ ต้องแถลงถึงสาเหตุที่บังคับให้ต้องก้าวไปสู่การแบ่งแยกดังกล่าวนั้น

เราถือว่าความจริงต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ประจักษ์แจ้งอยู่ในตัวเอง นั่นคือมนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน และพระเจ้าผู้สร้างได้มอบสิทธิบางประการที่จะเพิกถอนมิได้ไว้ให้แก่มนุษย์ ในบรรดาสิทธิเหล่านั้น ได้แก่ ชีวิต เสรีภาพ และการเสาะแสวงหาความสุข

เพื่อที่จะคุ้มครองสิทธิเหล่านั้นให้มั่นคง รัฐบาลจึงถูกสถาปนาขึ้นในหมู่มวลมนุษย์ โดยได้อำนาจที่ยุติธรรม อันเนื่องมาจากความยินยอมของผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง 

เมื่อใดก็ตามที่รูปแบบของรัฐบาลใดเป็นสิ่งที่ทำลายเป้าหมายเหล่านี้ เมื่อนั้นย่อมเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกรัฐบาลแบบนั้นเสีย และสถาปนารัฐบาลขึ้นใหม่ โดยให้มีรากฐานอยู่บนหลักการดังกล่าว และโดยการกำหนดอำนาจของรัฐบาลนั้น ให้เป็นไปในแบบที่พวกเขาเห็นว่าน่าจะมีผลต่อความปลอดภัยและความผาสุกของพวกเขามากที่สุด 

แน่นอนว่าความสุขุมรอบคอบ ย่อมจะกำหนดว่ารัฐบาลที่จะได้จัดตั้งมาช้านานแล้ว ไม่ควรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุเพียงเล็กน้อยและชั่วแล่น และโดยเหตุนี้เอง ประสบการณ์ทั้งปวงก็ได้แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาติมีแนวโน้มที่จะยอมอดทน หากความชั่วร้ายนั้นพอทนได้ ยิ่งกว่าที่จะแก้ไขให้แก่ตนเองโดยการทำลายล้างแบบอย่างที่ตนเคยชินอยู่ 

แต่เมื่อการใช้อำนาจไปในทางที่ผิดและการช่วงชิงอำนาจมีอยู่อย่างยาวนาน โดยมุ่งหมายต่อวัตถุประสงค์เดิมอย่างไม่เสื่อมคลาย จนชี้ให้เห็นว่ามีแผนการที่จะกดพวกเขาลงภายใต้การปกครองโดยเด็ดขาดของคนๆ เดียวแล้ว ย่อมเป็นสิทธิ ย่อมเป็นหน้าที่ของพวกเขา ที่จะล้มล้างรัฐบาลเช่นนั้น และจัดหาเครื่องป้องกันใหม่สำหรับความมั่นคงในอนาคตของพวกเขา  

นี่คือควาามทุกข์ยากที่ได้อดทนมาช้านานแล้วของอาณานิคมเหล่านี้ และนี่ก็คือความจำเป็นในปัจจุบันที่บีบบังคับให้พวกเขาต้องเปลี่ยนระบบการปกครองเก่าของตนเสียใหม่ 

ประวัติของกษัตริย์องค์ปัจจุบันของอังกฤษ คือประวัติแห่งการสร้างความทุกข์ทรมาน และการช่วงชิงอำนาจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยล้วนแต่มีวัตถุประสงค์อันแน่วแน่ที่จะสถาปนาระบบทรราชย์อันเด็ดขาดเหนือรัฐเหล่านั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อนี้ ขอให้โลกที่เที่ยงตรงได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่อไปนี้ด้วย

พระองค์ปฏิเสธไม่ยอมเห็นชอบด้วยกับกฎหมายซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเพื่อสาธารณประโยชน์

พระองค์ห้ามมิให้ผู้ว่าการรัฐของพระองค์ผ่านกฎหมาย ซึ่งมีความสำคัญอันเร่งรีบและต้องใช้โดยด่วน และให้ระงับไว้ก่อน จนกว่าพระอง์จะเห็นชอบด้วย และเมื่อได้ระงับไว้แล้ว พระองค์ก็ได้เพิกเฉยไม่สนพระทัยแต่อย่างใด

พระองค์ปฏิเสธไม่ยอมผ่านกฎหมายอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เขตที่มีประชาชนจำนวนมาก นอกเสียจากว่าประชาชนเหล่านั้นจะยอมสละสิทธิอันมีค่าประมาณมิได้ของพวกเขา และเป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัวก็เฉพาะต่อพวกทรราชเท่านั้น

พระองค์ได้เรียกประชุมสภานิติบัญญัติในที่ต่างๆ ซึ่งผิดปรกติวิสัย ไม่สะดวกและห่างไกลจากแหล่งรวมเอกสารทางราชการของพวกเขา โดยมีวัตถุประสงค์ประการเดียว คือ เพื่อทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าและยอมปฏิบัติตามมาตรการของพระองค์

กษัตริย์พระองค์นี้ได้ยุบสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้ง หลายหน โดยเหตุที่ได้คัดค้านอย่างหนักแน่นและอย่างกล้าหาญต่อการรุกรานสิทธิของประชาชนของพระองค์

หลังจากที่ได้ยุบสภาแบบนี้แล้ว พระองค์ก็ได้ปฏิเสธที่จะให้มีการเลือกตั้งคนอื่นๆขึ้นอีกเป็นเวลานาน ทำให้การใช้อำนาจนิติบัญญัติซึ่งไม่อาจถูกทำลายได้ ต้องกลับไปสู่ประชาชนโดยทั่วไป ในขณะเดียวกันนี้ รัฐก็ตกอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมต่ออันตรายทั้งปวงจากการรุกรานจากภายนอก และความปั่นป่วนภายในประเทศ

พระองค์ได้พยายามขัดขวางประชากรของรัฐเหล่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะหยุดยั้งกฎหมายเรื่องการแปลงสัญชาติของคนต่างด้าว และปฏิเสธไม่ยอมออกกฎหมายอื่นๆ ที่จะสนับสนุนให้พวกเขาเหล่านั้นได้อพยพอีก รวมทั้งเพิ่มเงื่อนไขของการจัดแบ่งที่ดินใหม่ขึ้น

พระองค์ได้ขัดขวางการบริหารงานยุติธรรม โดยปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบกับการออกกฎหมายจัดตั้งอำนาจทางตุลาการ

พระองค์ทำให้ผู้พิพากษาต้องขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของพระองค์แต่ผู้เดียว ทั้งในเรื่องระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง จำนวนเงินและการจ่ายเงินเดือนของพวกเขาด้วย

พระองค์ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย และได้ส่งข้าราชการในพระองค์จำนวนมากมาขัดขวางประชาชนของเรา และหาเลี้ยงชีพจากสิ่งที่พวกเรามีอยู่

พระองค์ได้นำกองทัพประจำการเข้ามาไว้ในหมู่พวกเรา ในยามสงบโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติของเรา

พระองค์ได้ทำให้ฝ่ายทหารอยู่เหนือและเป็นอิสระจากฝ่ายพลเรือน

พระองค์ได้ร่วมกับบุคคลอื่นในการทำให้เราต้องขึ้นกับเขตอำนาจการปกครองที่ผิดแปลกออกไปจากรัฐธรรมนูญของเรา และเป็นสิ่งซึ่งกฎหมายของเรามิได้ยอมรับ โดยทรงเห็นชอบกับการกระทำของบุคคลเหล่านั้นในการออกกฎหมายจอมปลอม เช่น การนำเอากองทหารจำนวนมากที่มีอาวุธ เข้ามาไว้ในหมู่พวกเรา 

การให้ความคุ้มครองแก่บุคคลเหล่านั้นโดยการดำเนินคดีจอมปลอมเช่นเดียวกัน เพื่อมิให้บุคคลเหล่านั้นต้องถูกลงโทษจากการฆาตกรรมใดๆ อันพึงกระทำต่อผู้อาศัยอยู่ในรัฐเหล่านั้น การตัดขาดการค้าของเรากับส่วนอื่นๆ ทั้งหมดของโลก 

การบังคับเก็บภาษีจากเรา โดยที่มิได้รับความยินยอมจากเรา 

การตัดโอกาสของพวกเราในหลายๆ กรณีในการที่จะได้รับประโยชน์จากระบบการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน 

การนำตัวพวกเราข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้น 

การยกเลิกระบบกฎหมายอังกฤษอันเสรีในรัฐใกล้เคียง โดยจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการขึ้นแทน ทั้งยังได้ขยายขอบเขตออกไปเพื่อให้เป็นตัวอย่างและเพื่อเป็นเครื่องมือ สำหรับการนำเอาการปกครองโดยเด็ดขาดแบบเดียวกันนี้มาใช้ในอาณานิคมทั้งหลาย ได้โดยทันที 

การเพิกถอนกฎบัตรและยกเลิกกฎหมายกฎหมายที่มีค่าสูงสุดต่างๆของเรา เปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของเราในระดับมูลฐาน 

การยกเลิกสภานิติบัญญัติของเรา และประกาศตนว่ามีอำนาจที่จะตรากฎหมายสำหรับเราในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ

พระองค์ได้ล้มเลิกรัฐบาลที่นี่ โดยประกาศให้เราอยู่นอกความคุ้มครองของพระองค์และทำสงครามกับเรา

พระองค์ปล้นสะดมทะเลของเรา ทำลายฝั่งทะเล เผาบ้าน เผาเมือง และทำลายชีวิตประชาชนของเรา

ขณะนี้พระองค์ได้ส่งทหารรับจ้างชาวต่างด้าวเป็นจำนวนมากเข้ามา เพื่อกระทำการฆ่าฟันคน ทำลายล้างและใช้ระบบทรราชย์ที่ได้เริ่มขึ้นแล้วให้สมบูรณ์อย่างโหดเหี้ยม ทารุณ และเต็มไปด้วยความทรยศหลอกลวงอย่างยากที่จะหายุคอันป่าเถื่อนที่สุดยุคใดเสมอเหมือน และอย่างไม่เหมาะสมโดยสิ้นเชิงกับประมุขของประเทศที่มีอารยธรรม

พระองค์ได้บังคับให้เพื่อร่วมชาติของเราที่ถูกจับในท้องทะเลหลวงต้องจับอาวุธเข้าต่อสู้กับประเทศของพวกเขา บังคับให้พวกเขาเป็นผู้สังหารมิตรสหายและพี่น้องของพวกเขาเอง หรือไม่ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของพระองค์

พระองค์ได้ยุยงให้เกิดการกบฏขึ้นภายในหมู่ของพวกเรา และได้พยายามที่จะนำเอาผู้ที่อาศัยอยู่ตามพรมแดนของเรา คือ ชาวอินเดียนที่ป่าเถื่อนไร้ความกรุณาปรานี ผู้ซึ่งกฎเกณฑ์ในการทำสงครามของพวกเขาได้แก่การทำลายล้างชีวิตผู้คน โดยไม่คำนึงถึงเพศ วัย และสภาพ เข้ามา ในทุกระยะของการกดขี่เหล่านี้ เราได้ร้องขอให้มีการแก้ไขด้วยความถ่อมตนเป็นที่สุด แต่คำขอร้องครั้งแล้วครั้งเล่าของเรากลับทำให้ได้รับการประทุษร้ายซ้ำแล้ว ซ้ำอีก กษัตริย์ผู้ซึ่งมีการกระทำการอันมีลักษณะซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นทรราชย์นั้น ไม่สมควรที่จะเป็นผู้ปกครองของประชาชนที่เป็นอิสระ

สำหรับพี่น้องชาวอังกฤษของเรา ก็ใช่ว่าเราจะขาดซึ่งการเรียกร้องความสนใจ 

เราได้เตือนพวกเขาให้ทราบเป็นระยะๆ ถึงการที่สภานิติบัญญัติของพวกเขาได้พยายามขยายเขตอำนาจการปกครอง โดยไม่มีสิทธิเหนือพวกเรา  

เราได้เตือนให้พวกเขาทราบถึงสภาพแวดล้อม การอพยพและการตั้งหลักแหล่ง ณ ที่แห่งนี้ของพวกเรา 

เราได้ร้องอุทธรณ์ต่อความยุติธรรมในสายเลือดของพวกเขา และต่อความสูงส่งของพวกเขา 

เราได้วิงวอนพวกเขาโดยอาศัยความสัมพันธ์จากเชื้อสายเดียวกัน ขอให้เลิกการช่วงชิงอำนาจเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์และการติดต่อของเราขาดสะบั้นลงอย่างแน่นอน พวกเขาก็เช่นเดียวกันที่มิได้สนใจไยดีต่อเสียงเรียกหาความยุติธรรม และความเป็นสายเลือดเดียวกัน ดังนั้นเราจึงต้องยอมจำนนต่อความจำเป็นที่จะต้องประกาศการแยกตัวของเรา และถือว่าพวกเขาก็เช่นเดียวกับมนุษยชาติอื่นๆ คือ เป็นข้าศึกในยามสงครามและเป็นมิตรในยามสงบ

เพราะฉะนั้น เรา คณะผู้แทนของสหรัฐอเมริกา ในสภาคองเกรสที่ได้มาประชุมกัน โดยการวิงวอนต่อผู้พิพากษาสูงสุดแห่งโลก เพื่อให้ความยุติธรรมแก่เจตจำนงของเรา จึงขอบันทึกและประกาศในนาม และโดยอาศัยอำนาจของประชาชน ผู้สุจริตแห่งอาณานิคม เหล่านี้ว่า อาณานิคมที่รวมกันเหล่านี้ มีสิทธิและโดยสิทธิ ควรที่จะได้เป็นรัฐที่มีอิสระและเป็นเอกราช และพวกเขาได้ตัดขาดซึ่งความจงรักภักดีที่มีต่อกษัติรย์อังกฤษ ความสัมพันธ์ทางการเมืองทั้งหลายทั้งปวงระหว่างพวกเขากับรัฐอังกฤษได้สิ้นสุดและควรจะสิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง 

และในฐานะที่เป็นรัฐเอกราชที่อิสระเสรี ก็ย่อมมีอำนาจอย่างสมบูรณ์ที่จะทำสงคราม ทำให้เกิดสันติภาพ ทำสัญญาเป็นพันธมิตร จัดตั้งพาณิชยกรรม และกระทำการอื่นใดและสิ่งอื่นใดทั้งปวง ซึ่งรัฐเอกราชมีสิทธิที่จะทำ เพื่อเป็นการสนับสนุนคำประกาศนี้ โดยยึดมั่นในการคุ้มครองของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงมหิทธานุภาพ เราขอให้สัญญาต่อกันและกันด้วยชีวิต ทรัพย์สิน และเกียรติอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา




หมายเหตุ : พากย์ไทย คัดลอกมาจาก สมบัติ จันทรวงศ์, มหาชนรัฐและประชาธิปไตย : ความคิดทางการเมืองอเมริกัน ค.ศ. 1776-1800. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 2529. (สำหรับพากย์ภาษาอังกฤษ ดูได้ที่นี่)